ข้อดีของรถ HYBRID
28 Feb 2020รถยนต์ Hybrid เป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานลูกผสมระหว่างเครื่องยนต์สันดาปภายใน เข้ากับระบบมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งผู้ผลิตสามารถพัฒนาเพื่อเน้นได้ทั้งสมรรถนะและความประหยัดมากกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันล้วนทั่วไป ต่อมาได้มีการพัฒนาให้เป็นระบบไฮบริดแบบเสียบปลั๊ก ซึ่งจะมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้ขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าได้เป็นระยะทางไกลกว่ารถไฮบริดธรรมดา โดยอาศัยแหล่งพลังงานจากการชาร์จไฟเพื่อให้มีปริมาณแบตเตอรี่เพียงพอต่อการใช้งาน
ข้อดีของรถยนต์ Hybrid มีอะไรบ้าง?
1.ประหยัดน้ำมันมากกว่า แม้ว่าเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ๆ จะถูกนำมาใช้กับรถยนต์นั่งมากขึ้น และพัฒนาให้มีอัตราสิ้นเปลืองต่ำลงกว่าแต่ก่อนมาก รถยนต์ Hybridสามารถสลับไปใช้พลังงานไฟฟ้าได้ในจังหวะออกตัว, ชะลอความเร็ว หรือหยุดนิ่งอยู่กับที่ ทำให้อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยทั้งหมดของรถไฮบริดไม่แตกต่างกันมาก
2.สามารถขับขี่ด้วยโหมดไฟฟ้าได้ รถยนต์ Hybrid และปลั๊กอินไฮบริด สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนได้ หากเป็นรถยนต์ Hybridปกติอาจขับขี่ได้เป็นระยะทางประมาณ 1-2 กิโลเมตร ก่อนเครื่องยนต์จะเริ่มติดเพื่อชาร์จประจุไฟ แต่หากเป็นเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริดอาจขับขี่ได้เป็นระยะทางถึง 40 กิโลเมตร โดยไม่ต้องใช้น้ำมันเลย จุดเด่นของการขับขี่ด้วยโหมดไฟฟ้าอีกอย่างหนึ่งก็คือ ความเงียบ ทำให้สามารถขับรถในหมู่บ้านโดยไม่ก่อให้เกิดเสียงรบกวนแก่คนภายนอกได้
3.ไม่จำเป็นต้องชาร์จไฟเสมอไป ข้อนี้ถือว่าเป็นข้อดีที่เหนือกว่ารถไฟฟ้าล้วน เพราะรถไฮบริดไม่จำเป็นต้องชาร์จไฟทุกครั้งเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด โดยยังคงความประหยัดใกล้เคียงกับขณะที่แบตเตอรี่เต็ม เนื่องจากรถจะมีการชาร์จไฟให้อยู่กลับมาอยู่ในระดับที่เหมาะสมเสมอ ทำให้สามารถใช้งานโหมดไฮบริดได้เต็มประสิทธิภาพ ขณะที่รถไฟฟ้าล้วน ต้องหยุดเพื่อหาที่ชาร์จก่อนเดินทางต่อไปเท่านั้น
4.ช่วยลดมลพิษในอากาศได้
คนทั่วไปอาจไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้นัก แต่รถไฮบริดสามารถลดมลพิษที่ปล่อยออกสู่อากาศภายนอกได้ ยกตัวอย่างเช่น Toyota C-HR HV มีอัตราการปล่อย CO2 เฉลี่ยเพียง 95 กรัมต่อกิโลเมตร เทียบกับรุ่นเบนซิน 1.8 ลิตร ที่ทำได้ 150 กรัมต่อกิโลเมตร ลองคิดภาพว่าหากรถทุกคันในกรุงเทพฯ เปลี่ยนเป็นรถไฮบริด จะสามารถลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศได้มากมายขนาดไหน