พบกับ โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่…พลังแกร่งเหนือนิยาม (THE UNBEATABLE)
6 Jun 2020ดร. จุฬชาติ จงอยู่สุข หัวหน้าวิศวกรระดับภูมิภาค กล่าวว่า เราเริ่มพัฒนาโปรเจคนี้ด้วยเป้าหมายที่ต้องการ “สร้างรถที่ดีที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน” โดยการลงพื้นที่เพื่อศึกษาพฤติกรรมผู้ใช้รถจากทั่วทุกทวีป เพื่อให้ได้ข้อมูลในการออกแบบรถที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ทั่วโลกมากที่สุด ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของโลกที่เรานำเสนอรถในตระกูลนี้ถึง 5 รุ่น พร้อมกัน ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยฝีมือคนไทยตั้งแต่เริ่มต้น ด้วยการนำเอาข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับจากการลงภาคสนาม นำมาสู่การพัฒนา รถโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่ ภายใต้แนวคิด TOUGHNESS FOR EVERYONE ที่สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้ทั่วโลกได้อย่างสมบูรณ์แบบ”
จุดขายหลักของโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่
รูปลักษณ์ภายนอกใหม่ให้ความแข็งแกร่งทุกมิติ แต่ยังแฝงความล้ำสมัย มาพร้อมกับไฟหน้าดีไซน์ใหม่ แบบ Bi-Beam ไฟ LED Daytime Running Light และ ไฟท้ายแบบ LED Light Guiding เพิ่มความโดดเด่นในยามค่ำคืน
*** รูปลักษณ์ภายใน เพิ่มความล้ำสมัยด้วยหน้าจอสัมผัส และมาตรวัดดีไซน์ใหม่
สำหรับรุ่นพิเศษ ROCCO
นอกจากจะมีชุดตกแต่งพิเศษ อาทิ สปอร์ตบาร์ และล้ออัลลอยดีไซน์พิเศษ พร้อมยางแบบ White Letters ทีเพิ่มความแข็งแกร่ง ดุดัน และความพรีเมียมแล้วยังเพิ่มความสุด Exclusive ให้มากยิ่งขึ้นด้วย การออกแบบกระจังหน้าและกันชนหน้าที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น Rocco ที่แตกต่างจากรุ่นมาตรฐานอย่างชัดเจน นอกเหนือจากนี้ ภายในห้องโดยสาร ที่ตกแต่งให้สอดรับกับการออกแบบภายนอก ที่แข็งแกร่ง และดุดัน พร้อมยกระดับความพรีเมียมด้วยวัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสารแบบพิเศษ และไฟส่องสว่างภายใน
ความนุ่มสบาย (Comfort)
ช่วงล่างที่ถูกปรับปรุงและพัฒนาขึ้นใหม่ โดยเฉพาะในส่วนของการดูดซับแรงกระแทกของโช๊คอัพและเปลี่ยนวัสดุของแหนบ เพื่อยกระดับความนุ่มสบายให้มากยิ่งขึ้น เสมือนนั่งรถ SUV ระดับหรู โดยที่ยังคงรักษาความเป็นผู้นำในด้านความแกร่งทนทาน และอัตราการรับนํ้าหนักได้ดีเช่นเดิม
สมรรถนะการขับขี่
1. ปรับปรุงสมรรถนะเครื่องยนต์ใหม่ในรุ่น2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุดถึง 204 แรงม้า (PS) พร้อมแรงบิดที่500 นิวตันเมตร (Nm) ในช่วงความเร็วรอบเครื่องยนต์ที่กว้างตั้งแต่1,600-2,800 รอบต่อนาที ตอบรับทุกการขับขี่ได้อย่างเต็มสมรรถนะ และประหยัดน้ำมันมากขึ้น
2. สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่แบบ Off-Road :
2.1 เครื่องยนต์มีการปรับลดความเร็วรอบเดินเบา (จาก 850รอบต่อนาที เป็น 680 รอบต่อนาที) สามารถลุยเส้นทาง Off-Road ได้อย่างมั่นคง ราบรื่น ไม่สะดุด
2.2 หน้าจอTFT แสดงข้อมูล ตำแหน่งองศาของล้อ และติดตั้งสัญญาณเตือนกะระยะด้านท้าย และ มุมกันชนหน้า-หลัง เพื่อช่วยตรวจสอบสิ่งกีดขวางรอบข้างในขณะขับขี่
3. ปรับปรุงประสิทธิภาพในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งในเครื่องยนต์2.8 และ 2.4 ลิตร เพิ่มความประหยัดเป็นเลิศ
4. ระบบบังคับเลี้ยวแบบVFC (Variable Flow Control) ปรับน้ำหนักพวงมาลัยให้เหมาะสมในทุกช่วงความเร็ว ช่วยลดความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่
ความสะดวกสบาย (CONVENIENCE)
หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ที่รองรับ Apple CarPlay เชื่อมต่อทุกความบันเทิงได้อย่างอิสระ พร้อม T-Connect ระบบเชื่อมต่อรถและผู้ใช้รถให้เป็นหนึ่งเดียว เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย